รักษาให้ใบหน้าสาวๆ ไร้สิว

สาวๆ ที่ว่านี้ต้องเป็นสาวที่อายุไม่เกิน 20 ปีนะจ้ะ จะบอกใว้ก่อนเลยว่าสาวน้อยประเภทนี้ไม่ต้องพยายามหาอะไรมาบำรุงซะจนมากเกินนักหรอก เพราะสภาพผิวของพวกคุณยังมีน้ำหล่อเลี้ยงอยู่ และมีความสมดุลตามธรรมชาติอีกด้วย วิธีการรักษาก็แค่คุณรู้จักที่จะล้างหน้าให้สะอาด ไม่ว่าจะไปไหนมาไหนเหนื่อยมากแค่ไหนคุณก็ต้องล้างหน้าก่อนที่จะเข้านอน ห้ามนอนโดยที่ไม่ยอมล้างหน้าโดยเด็ดขาด เพราะถ้าคุณไม่ล้างหน้าจะทำจะทำให้ปัญหาการเกิดสิวเสี้ยน สิวอุดตันและกลายเป็นสิวอักเสบในที่สุด และทุกครั้งหลังจากล้างหน้าเสร็จเรียบร้อยคุณควรจะเช็ดหน้าให้แห้ง เพื่อเป็นการรักษาระดับน้ำหล่อเลี้ยงของผิวหน้า

นวดเท้าเพิ่มความชุ่มชื้น

หลังจากที่คุณทำความสะอาดและเพิ่มความสดชื่นให้กับเท้า แล้วก็ถึงเวลาของการบำรุงบ้างแล้วล่ะ สิ่งที่ต้อง เตรียมในการนวดเท้าก็คือ กล้วยหอมบด น้ำมะนาว น้ำผึ้ง โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ผสมส่วนผสมต่างๆ ให้เข้ากันและเมื่อผสมส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันแล้วให้คุณเอามาทาบนเท้า และทำการนวดทั้งใต้ฝ่าเท้าและบนหลังเท้า พยายามนวดไปให้ทั่วนวดไปจนถึงข้อเท้า เมื่อนวดจนพอใจแล้วก็ล้างออกด้วยน้ำสะอาด และทาด้วยโลชั่นบำรุงผิวเป็นอันเสร็จเรียบร้อย แค่นี้คุณก็มีเท้าที่สุขภาพดีและไม่มีกลิ่นอับอีกด้วย

สร้างความผ่อนคลายให้ฝ่าเท้า

เท้าของคนเราต้องรับบทหนักทั้งเดิน ทั้งวิ่ง แถมยังต้องคอยรับน้ำหนักตัวของเราอีกด้วย คุณจึงจำเป็นที่จะต้องผ่อนคลายให้กับฝ่าเท้าของคุณด้วย ก่อนอื่นสิ่งที่คุณต้องเตรียมคือ น้ำอุ่น 1 กะละมัง ผสมด้วยน้ำมันหอมระเหย เลือกเอากลิ่นที่คุณชอบเลยนะสัก 2-3 หยด ตามด้วยน้ำมันมะกอกอีก 2-3 หยด น้ำมะนาว น้ำนมสด แตงกวาหั่นแว่นและสุดท้ายใบสะระแหน่ ใช้มือวนส่วนผสมให้เข้ากัน จากนั้นนำเท้าลงแช่สักพักพอเท้าเริ่มนิ่มลงก็ใช้แปรงขัดตามซอกเล็บ และใช้หินขัดผิวขัดที่ส้นเท้า ส่วนผสมต่างๆ จะช่วยทั้งกำจัดและบำรุงเท้าในเวลาเดียวกัน เชื่อมั้ยว่าการผ่อนคลายเท้าแบบนี้จะทำให้ผิวเท้าเกิดความนุ่ม ไม่แห้งและแตกง่ายอีก ถ้าจะให้ดีเธอควรจะมีการนวดเท้าบ้างเพื่อเป็นการบำรุงให้สุขภาพดีมากยิ่งขึ้น

มือชุ่มชื้นไม่แห้งง่าย

มีหลายครั้งเลยโดยเฉพาะหน้าหนาว สาวๆ ทั้งหลายจะเจอกับปัญหามือแห้งทั้งทีมือก็นุ่มนวลดี เมื่อรู้ว่าผิวเริ่มแห้งวิธีแก้ก็คือ ให้คุณนำนมสดมาตั้งไฟให้ร้อน อาจจะเติมน้ำมะนาว น้ำส้ม หรือน้ำสับปะรดก็ได้ เติมลงไปเพียงเล็กน้อยก็พอหลังจากนมเดือดจึงยกลงมาพักใว้ให้พออุ่น นำมือทั้งสองข้างของคุณไปแช่ในน้ำนมที่ผสมเรียบร้อยแล้ว แช่จนคุณพอใจจากนั้นล้างมือให้สะอาดและทาด้วยโลชั่นถนอมผิว

นวดมือให้นุ่มยิ่งกว่าที่เคยเป็น

นวดมือให้นุ่มยิ่งกว่าที่เคยเป็นนั้นเป็นอย่างไร ก็เพราะมีสาวๆ หลายคนต้องการความนุ่มของผิวยิ่งกว่าที่เคยเป็น ส่วนผสมก็ง่ายๆ มีไข่แดง น้ำมันมะกอก น้ำตาลทราย น้ำผึ้ง นำส่วนผสมทั้งหมดมาผสมให้เข้ากัน และนำมาราดบนมือตามหน้ามือและหลังมือให้ทั่ว อย่าลืมตามซอกนิ้ว และซอกเล็บด้วยล่ะ เพื่อเป็นการกำจัดเซลล์ผิวเก่าทิ้งไป วิธีนี้ควรจะใช้เวลาการนวดและขัดนานสักหน่อย เมื่อรู้สึกเบามือขึ้นก็ล้างออกและตามด้วยการทาโลชั่นบำรุงผิว ขณะที่มือยังชื้นอยู่จะได้ผลดียิ่งขึ้น

นวดมือนุ่มในห้องครัว

สาวๆ หลายคนเข้าครัวทำอาหารเองก็มีมากไม่ใช่น้อย และด้วยสาเหตุนี้อาจทำให้มือของคุณสาวๆ ทั้งหลายต้องขาดความนุ่มนวลไปบ้าง เรามีวิธีเรียกความนุ่มกลับคืนมาหลังจากทำอาหาร คือใช้น้ำมะนาว 1 ลูก ผสมกับน้ำตาลทราย 4 ช้อนชา เมื่อผสมกันเรียบร้อยให้คุณทาส่วนผสมลงบนฝ่ามือค่อยๆ แต่ค่อยๆ เทนะไม่จำเป็นต้องเททีเดียวหมด จากนั้นก็ถูมือทั้งสองข้างให้ทั่วซอกนิ้วและซอกเล็บเพื่อเป็นการกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วทิ้งไปด้วย หลังจากขัดมือเสร็จเรียบร้อยก็ล้างออกให้สะอาดไม่ต้องใช้สบู่หรือน้ำยาในการล้างมือหลังการขัด เพราะอาจทำให้มือขาดความชุ่มชื้นได้ และหลังจากล้างมือเรียบร้อยแล้วให้ทาด้วยการทาโลชั่นถนอมมือโดยตรง หรือจะเลือกใช้โลชั่นถนอมผิวธรรมดาที่คุณใช้อยู่เป็นประจำ

สารอาหารจำพวกโพลีน (Proline)

โพลีนช่วยในการสร้างคอลลาเจนและป้องกันการเสื่อมสภาพของคอลลาเจน จึงมีผลทำให้ผิวหนังแข็งแรงและลดการแก่อก่อนวัย และโพลีนก็มีอยู่ในอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ต่างๆ และเพื่อการทำงานของโพลีนให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้นควรจะมีวิตามินซีควบคู่ไปด้วยเพื่อการมีผิวสวยและสมบูรณ์

สารอาหารจำพวก ซิลิคอน

ซิลิคอนเป็นสารอาหารที่ทำให้คอลลาเจนจับตัวกันแน่นขึ้น และเมื่อคอลลาเจนจับตัวกันแน่นขึ้นก็ทำให้ผิวหนังแข็งแรงขึ้น ผิวหนังแข็งแรงผิวก็ไม่เกิดริ้วรอยและอาหารที่มีซิลิคอนก็คือพวกผักสด ถั่วต่างๆ และธัญพืชทุกชนิด

สารอาหารจำพวก ซีลีเนียม

ซีลีเนียมเป็นสารอาหารที่ช่วยในการยืดหยุ่นของผิวหนัง และยังช่วยในเรื่องของการแก่ก่อนวัยซีลีเนียมจะมีในอาหารจำพวก กะหล่ำปลี บร๊อคโคลี่ ดอกกะหล่ำ เมล็ดดอกทานตะวัน ปลาทูน่า เนื่อไก่และไข่ต่างๆ

สารอาหารจำพวก PABA (Paraaminobenzoic)

PABA เป็นสารอาหารที่ช่วยปกป้องรูขุมขนและชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ซึ่งค่อนข้างจะเป็นปัญหาของสาวๆในปัจจุบัน และสารอาหารจำพวก PABA จะอยู่ในอาหารจำพวก เห็ด ไข่ นม และข้าวซ้อมมือ

สารอาหารจำพวกวิตามิน B รวม

วิตามิน B รวม เป็นสารอาหารที่ทำให้ผิวแข็งแรงไม่แพ้ง่ายหรือเกิดการระคายเคืองง่าย วิตามิน B รวม จะอยู่ในอาหารจำพวกข้าวที่ยังไม่ผ่านการขัด (ข้าวซ้อมมือ) และมีพวกถั่ว่างๆ นมสด ผักสดทุกชนิดด้วย

สารอาหารจำพวกวิตามิน A

วิตามิน A ที่เรารู้จักหรือเรียกกันว่าเบต้าแคโรธีน ซึ่งเป็นตัวช่วยในการปกป้องผิวหนังไม่ให้เกิดการแก่ก่อนวัย และวิตามิน A ยังเป็นตัวกระตุ้นในการผลัดเซลล์ผิวเก่าสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมาอีกด้วย คุณสามารถหาวิตามิน A ได้ในอาหารจำพวก แครอท มะละกอ ฟักทอง มันฝรั่ง ฯลฯ

สารอาหารจำพวกวิตามิน E

วิตามิน E เป็นสารที่คอยต่อต้านการก่อตัวของอนุมูลอิสระ ทำให้ออกซิเจนไปเลี้ยงผิวหนังได้อย่างเต็มที่ และวิตามิน E ยังช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตได้อีกด้วยและเมื่อการไหลเวียนของโลหิตดีขึ้นผิวก็สวยขึ้นด้วย วิตามิน E จะมีในอาหารจำพวกถั่วต่างๆ ธัญพืชที่ยังไม่ผ่านกรรมวิธีในการขัดขาวและน้ำมันที่ผลิตจากพืชทุกชนิด

สารอาหารจำพวกวิตามิน C

วิตามิน C เป็นตัวเสริมสร้างคอลลาเจนและต่อต้านอนุมูลอิสระภายในร่างกาย หรือจะเรียกง่ายๆ ก็คือตัวช่วยรักษาไม่ให้ผิวเหี่ยวย่น หรือเกิดริ้วรอย วิตามินซีจะมีมากในผักผลไม้ที่มรสเปรี้ยวทั้งหลายเช่น ส้ม มะนาว สับปะรด สตรอเบอรี่ และยังมีในฝรั่ง มะเขือเทศ ฯลฯ

กลัวจะเป็นมะเร็งผิวหนัง

บางครั้งคนเราอาจจะลืมปกป้องและป้องกันมะเร็งผิวหนังหรือบางคนอาจจะไม่กลัวไม่สนใจว่าจะเป็นหรือไม่ด้วยซ้ำ ความจริงแล้วผิวของเรามีโอกาสเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังกันทั้งนั้น ทั้งแสงแดด อาหารการกิน สมัยนี้มีส่วนและมีผลทำให้เป็นได้ทั้งนั้น วิธีการปกป้องคุณควรจะทาครีมกันแดดมาทาทุกครั้งที่คุณจะออกจากบ้านหรืออยู่บ้านจะทาด้วยก็ได้ ควรใส่เสื้อผ้าเพื่อป้องกันแสงแดดถ้าต้องออกแดดจัดๆ แล้วคุณก็ควรที่จะเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์และมีประสิทธิภาพในการต้านสารก่อมะเร็ง ก็จะมีพวกกระเทียม กะหล่ำหัว กะหล่ำดอก ผักกาด บร็อคโคลี ผักพวกนี้หลายคนอาจจะไม่ชอบรับประทาน ลองเอามาใส่ในเมนูจานโปรดสักนิดจะช่วยให้รับประทานง่ายขึ้นและอย่าลืมหลีกเลี่ยงแสงแดดจัดๆ ด้วยนะ

พอกหน้าต้านริ้วรอย (ผิวมัน)

ถึงแม้ว่าผิวมันจะเกิดริ้วรอยยากซักหน่อยแต่การพอกหน้าก็มีความสำคัญอยู่ไม่ใช่น้อยเหมือนกัน ให้คุณนำว่านหางจระเข้บดละเอียดผสมกับน้ำมะนาวโยเกิต และข้าวโอ๊ตบดละเอียดผสมส่วนผสมทั้งหมดให้เข้ากันและนำมาพอกหน้าทิ้งใว้ 15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด และตามด้วยน้ำอุ่นๆ อีกครั้งและหลังจากนี้คุณก็ตามด้วยการทาโลชั่นหรือการพอกหน้าสำหรับผิวขาวต่อก็ได้ แต่จำเอาใว้ว่าทุกครั้งหลังการพอกหน้าต้านริ้วรอยห้ามออกไปโดนแสงแดดทันที เพราะอาจทำให้ผิวหน้าเกิดรอยไหม้ขึ้นได้ หรือจะให้ดีคุณควรทำตอนเย็นเพื่อตอนกลางคืนคุณหลับจะได้เป้นการพักหน้าของคุณด้วย

พอกหน้าต้านริ้วรอย (ผิวแห้ง)

ผิวแห้งเป็นผิวที่มักพบการเกิดปัญหาริ้วรอยมากที่สุด วิธีบำรุงให้คุณเอาเนื้อแตงกวาบดพอละเอียดผสมกับผลอโวคาโดบดพอละเอียด (หรือน้ำมันสกัดจากผลอโวคาโดก็ได้) ไข่ขาวและนมผงอีกเล้กน้อย นำทุกอย่างผสมให้เข้ากันจากนั้นนำมาพอกหน้าทิ้งใว้ 15 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดและตามด้วยน้ำเย็นอีกครัง หลังจากนั้นคุณจะตามด้วยครีมบำรุงผิวหรือการพอกหน้าขาวซ้ำอีกครั้งก็ได้

พอกหน้าต้านริ้วรอย (ผิวธรรมดา)

หลังจากผิวเราท้าแดดโดนสารพิษมาต่างๆ นาๆ ถึงแม้ว่าผิวธรรมดาจะมีโอกาสมีรอยเหี่ยวย่นไม่มากนักแต่ถ้าหากเราปล่อยมันไปเรื่อยๆ ริ้วรอยเหล่านั้นก็จะมาหาคุณง่ายกว่าปกติซะอีก วิธีการเตรียมก็แสนง่ายแค่คุณเอากล้วยหอมสุกมาบดละเอียดจากนั้นนำไปผสมกับน้ำผึ้ง เมื่อเข้ากันดีแล้ว นำมาพอกหน้า 15 นาทีแล้วล้างออก หลังจากนั้นล้างหน้าออกแล้วคุณอาจตามด้วยการทาโลชั่นหรือการพอกหน้าสำหรับผิวขาวและอ่อนเยาว์อีกก็ได้

ครีมลดการอักเสบของสิว

สิวที่เกิดการอักเสบค่อนข้างจะทรมานทั้งเจ็บและเป็นรอยดำบนใบหน้า วิธีการทำครีมลดการอักเสบที่ง่ายมากให้คุณนำสตรอเบอรี่บดผสมกับกระเทียมปอกเปลือกสับหยาบผสมโยเกิร์ตไขมันต่ำ ตามด้วยข้าวโอ๊ตบดและเมื่อคนส่วนผสมเข้ากันดีแล้ว ให้หยดทีทรีออยล์ลงไป 1 หยด และคนให้เข้ากันอีกครั้ง จากนั้นก็ให้นำส่วนผสมมาแต้มลงบนสิวที่กำลังอักเสบอยู่ เพื่อเป็นการลดการอักเสบทิ้งใว้ประมาณ 30 นาที แล้วล้างออกเช็ดด้วยโทนเนอร์และตามด้วยโลชั่นควบคุมความมันเป็นอันว่าเสร็จขันตอนของการลดการอักเสบของสิว

อบไอน้ำด้วยสมุนไพร

วิธีการอบไอน้ำด้วยสมุนไพรก็มีวิธีคล้ายๆ กับการอบไอน้ำหน้าธรรมดาจะต่างกันก็ตรงที่เวลาต้มน้ำให้คุณใส่ตะไคร้ หั่นเป็นท่อนๆ เปลือกมะนาว ใบสะระแหน่ รอจนน้ำเดือดเติมน้ำมันทีทรีลงไปเล็กน้อย แล้วจึงยกลงมาเทใส่อ่างหรือกะละมังที่เตรียมใว้ จากนั้นก็ใช้ผ้าคลุมศรีษะเหมือนการอบไอน้ำหน้าธรรมดานั่นแหละ และหลังการอบไอน้ำหน้าด้วยสมุนไพรแล้วให้คุณล้างหน้าอย่างเบาๆ และตามด้วยการทาโลชั่นบำรุงผิว

ครีมทาสิวสำหรับทุกสภาพผิว

สูตรนี้เป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เพราะวิธีนี้มีส่วนผสมของแตงกวาและแครอทเป็นส่วนผสมหลักแถมยังมีน้ำมันทีทรีแล้วข้าวโอ๊ตบดผสมอยู่ด้วย วิธีการผสมให้คุณเอาแตงกวามาปอกเปลือกและควักเม็ดออกจากนั้นเอาเนื้อมาขูดให้ละเอียด ผสมกับแครอทบดละเอียดและน้ำมันทีทรี 1 หยด และข้าวโอ๊ตบดละเอียดส่วนผสมวิธีนี้ค่อนข้างข้น เมื่อส่วนผสมเข้ากันดีแล้วคุณก็ล้างหน้าให้สะอาดและนำครีมที่ผสมได้มาพอกหน้าทาให้ทั่วใบหน้าเว้นบริเวณรอบดวงตา ทิ้งใว้ประมาณ 15-20 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำอุ่นและเช็ดให้เเห้ง วิธีนี้ดูจะไม่เหมาะกับคนที่มีสภาพผิวมันมากๆ นัก

พอกหน้ากำจัดสิว

การพอกหน้าเพื่อกำจัดสิวเป็นวิธีง่าย ๆ แต่ดูเหมือนจะทำได้ในช่วงฤดูหนาวซะส่วนมากเพราะส่วนผสมหลักของวิธีนี้เป็นสตรอเบอรี่ประมาณ 10 ลูก น้ำผึ้งและก็นมผงของเด็กนั่นแหละ วิธีทำก็ให้นำสตรอเบอรี่มาบดให้หยาบผสมน้ำผึ้งนมผงอย่าผสมให้ใสมากนะ เดี๋ยวเวลาพอกจะไม่ติดหน้าและก่อนคุณจะพอกหน้า คุณต้องทำความสะอาดหน้าเธอให้เรียบร้อยแล้วถึงทาสตรอเบอรี่ที่ผสมแล้วทาบนใบหน้าทิ้งไว้ประมาณ 15 - 30 นาที จากนั้นก็ล้างออก เช็ดให้แห้งแล้วทาด้วยครีมถนอมผิวของคุณได้เลย วิธีนี้เหมาะกับคนผิวมัน และบริเวณ T-ZONE ของคนผิวผสมนะ

การดูแลรักษาผิวหน้าขณะเป็นสิว

สิวสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยและทุกสภาพผิว แต่เมื่อสิวเกิดแล้วเราต้องรักษาไม่ให้ลุกลามหรือเกิดอาการอักเสบรุนแรง ก่อนอื่นคุณต้องรักษาผิวหน้าให้สะอาดอยู่เสมอ ไม่ควรแกะหรือบีบอย่างเด็ดขาด เพราะการทำเช่นนี้จะทำให้ผิวหน้าช้ำและกลายเป็นแผลเป็นหลังสิวหายได้ ควรสระผมบ่อยกว่าที่เป็นอยู่ เพราะความมันจากเส้นผมก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดสิว ช่วงนี้ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าหนา ๆ ด้วย แต่ถ้าทำทุกวิถีทางแล้วสิวยังไม่ยุบลงอีก เธอควรจะมองหายาแต้มสิวที่มีฤทธิ์ในการฆ่าเชื้อ และรักษาการอักเสบของสิวได้ด้วย และที่สำคัญเธอไม่ควรใช้มือจับบนใบหน้าขณะเป็นสิว เพราะมือของเธอสกปรกจึงมีผลทำให้สิวเกิดอักเสบลุกลามไปกันใหญ่